เพื่อสนับสนุนความทุ่มเทในการต่อสู้กับแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะทั่วโลก เหล่านักวิทยาศาสตร์ของ KFSH&RC ได้ค้นพบแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่: Riyadhensis

ริยาด, ซาอุดีอาระเบีย, March 26, 2024 (GLOBE NEWSWIRE) —  นักวิทยาศาสตร์ที่ King Faisal Specialist Hospital and Research Centre (KFSH&RC) มุ่งสู่พัฒนาการที่ก้าวล้ำหน้า ด้วยการค้นพบแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่ในชื่อ “Stenotrophomonas Riyadhensis” ผ่านเทคโนโลยีการถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์และจุลลินทรีย์ทั้งจีโนม (whole-genome sequencing – WGS) การค้นพบครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ในการศึกษาปฏิกิริยาของแบคทีเรียที่มีต่อยา ซึ่งจะปูทางไปสู่นวัตกรรมกลยุทธ์การรักษาใหม่ ๆ ในอนาคต ความทุ่มเทดังกล่าวมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะทั่วโลก ช่วยเน้นย้ำถึงความสามารถด้านการวิจัยขั้นสูงของ KFSH&RC รวมถึงบทบาทการเป็นผู้นำในการสนับสนุนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์และยกระดับการดูแลผู้ป่วย

การค้นพบ “Riyadhensis” ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของการทดสอบจีโนมในการคิดค้นวิธีการวินิจฉัยและการรักษาที่ให้ผลในเชิงบวก ตลอดจนช่วยให้เข้าใจกลไกการดื้อต่อยาของแบคทีเรียได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่ละเอียดอ่อน เช่น ห้องดูแลผู้ป่วยหนัก (ICU) และในผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ความสำเร็จต่าง ๆ ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในการต่อสู้กับการดื้อยาปฏิชีวนะ การพัฒนายา และการป้องกันการแพร่กระจายของโรค

นักวิจัยค้นพบแบคทีเรียชนิดใหม่นี้ระหว่างการตรวจสอบเชิงลึกเกี่ยวกับการระบาดที่ต้องสงสัยในห้อง ICU ของ KFSH&RC ในปี 2562 ซึ่งการค้นพบครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการค้นหาและตอบโต้แบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่ที่ชุมชนวิทยาศาสตร์และการแพทย์ทั่วโลกไม่เคยรับรู้มาก่อนได้อย่างชัดเจน แรกเริ่มนั้น เหล่านักวิจัยคิดว่าแบคทีเรียนี้เป็นสายพันธุ์หนึ่งของ Pseudomonas aeruginosa ซึ่งเป็นแบคทีเรียก่อโรคที่เลื่องชื่อในด้านการดื้อต่อยาปฏิชีวนะ ทว่าการวิเคราะห์ WGS ในเวลาต่อมาเผยให้เห็นว่าแบคทีเรียนี้ไม่ได้มีลักษณะที่ร่วมกันกับสกุล Pseudomonas แต่กลับพบว่า Riyadhensis นั้นอยู่ในสกุล Stenotrophomonas ที่มีองค์ประกอบทางพันธุกรรมและลักษณะสัณฐานวิทยาอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแตกต่างจากเชื้อในสกุลตัวอื่น ๆ ที่ได้รับการยอมรับทางวิทยาศาสตร์มาแล้ว

ดร. Ahmad Al Qahtani หัวหน้าแผนกโรคติดเชื้อและภูมิคุ้มกัน ประจำศูนย์วิจัยของ KFSH&RC กล่าวว่า: “วิธีระบุเชื้อแบคทีเรียแบบดั้งเดิมอาจนำไปสู่การระบุเชื้อที่ผิดพลาดได้ แต่การวิเคราะห์ WGS ให้วิธีการที่แม่นยำและตรงเป้าหมาย ช่วยให้มั่นใจในการระบุเชื้อที่แม่นยำ และให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลไกการดื้อยาโดยละเอียด ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญในการตรวจสอบการระบาดของโรคและยกระดับการดูแลผู้ป่วย”

ดร. Reem Almaghrabi หัวหน้าฝ่ายโรคติดเชื้อจากการปลูกถ่ายอวัยวะ ณ Organ Transplant Centre of Excellence ของ KFSH&RC เน้นย้ำความสำคัญของการค้นพบครั้งนี้ที่มีต่อการสนับสนุนการเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง และการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น WGS ในการพัฒนาวิธีการวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แนวทางนี้ยังเป็นการวางรากฐานด้านความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ในทุกระดับ เพื่อยกระดับความทุ่มเทในการต่อสู้กับการดื้อยาปฏิชีวนะในระดับโลกด้วย

การทำความเข้าใจความแตกต่างของแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการดื้อยาปฏิชีวนะนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลสุขภาพสมัยใหม่ อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นวิธีการต่อสู้กับการติดเชื้อแบคทีเรียที่สำคัญอีกด้วย เนื่องจากแบคทีเรียวิวัฒนาการความต้านทานของตนเองอย่างต่อเนื่อง เชื้อเหล่านี้จึงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อสุขภาพมนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง

ประเด็นที่น่าสนใจคือ KFSH&RC ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่หนึ่งในประเทศทวีปตะวันออกกลางและแอฟริกา และในอันดับที่ 20 ของโลกจากรายชื่อสถาบันดูแลสุขภาพชั้นนำกว่า 250 แห่งทั่วโลกซึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกันจากการจัดอันดับของ Brand Finance ประจำปี 2567 นอกจากนั้นแล้ว ในปีเดียวกัน ศูนย์แห่งนี้ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลกโดยนิตยสาร Newsweek อันทรงเกียรติอีกด้วย

King Faisal Specialist Hospital & Research Centre เป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านการให้บริการดูแลสุขภาพเฉพาะทาง การขับเคลื่อนนวัตกรรม และการดำเนินการในฐานะศูนย์กลางการวิจัยและการศึกษาทางการแพทย์ขั้นสูง โรงพยาบาลมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ให้ก้าวหน้าและยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพทั่วโลกผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับสถาบันที่มีชื่อเสียงในระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และนานาชาติ

เกี่ยวกับ King Faisal Specialist Hospital & Research Centre (KFSH&RC):

King Faisal Specialist Hospital & Research Centre (KFSH&RC) ถือเป็นสถาบันดูแลสุขภาพชั้นนำในตะวันออกกลาง โดยมีเจตจำนงที่จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยทุกรายที่กำลังต้องการการรักษาพยาบาลเฉพาะทาง โรงพยาบาลแห่งนี้มีประวัติอันยาวนานในการรักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด การปลูกถ่ายอวัยวะ ประสาทวิทยาศาสตร์ และพันธุศาสตร์

ในปี 2567 “Brand Finance” ได้จัดอันดับให้ King Faisal Specialist Hospital & Research Center เป็นศูนย์วิชาการทางการแพทย์ชั้นนำในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา และติดหนึ่งใน 20 อันดับแรกของโลกด้วย นอกจากนี้ ในปี 2567 ศูนย์แห่งนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก จากนิตยสาร Newsweek และเป็นอันดับ 1 ใน KSA

มีการออกพระราชกฤษฎีกาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Saudi Vision 2030 เพื่อปฏิรูปโรงพยาบาลให้เป็นองค์กรอิสระที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ ซึ่งปูทางไปสู่โครงการปฏิรูปที่ครอบคลุมเพื่อบรรลุผลสำเร็จในการเป็นผู้นำระดับโลกด้านการดูแลสุขภาพผ่านความเป็นเลิศและนวัตกรรม

ข้อมูลการติดต่อ

หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:

คุณ Essam Al-Zahrani รักษาการหัวหน้าฝ่ายสื่อสารมวลชน 0555254429

คุณ Abdullah Al-Awn บรรณาธิการสื่ออาวุโส โทร 0556294232

สามารถดูรูปภาพประกอบประกาศนี้ได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/c4299c01-0079-498b-8350-bd085d769150

GlobeNewswire Distribution ID 9079374

ADVERTISEMENT